เสน่ห์ของการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักก็คือบรรยากาศของความเท่ที่อบอวลไปด้วยความดิบของตัววัสดุที่ใช้ในการตกแต่งอย่างอิฐ ไม้ ปูนเปือย สำหรับใครที่อยากมีห้องนั่งเล่นเท่ๆที่เหมือนได้นั่งอยู่ในบาร์ใต้ดินที่ลอนดอน หรืออยากแต่งห้องอาหารที่เหมือนได้กำลังนั่งดื่มในบาร์ของประเทศยุโรป หรืออยากเปลี่ยนสไตล์ห้องนอนให้ดูเป็นสไตล์ Loft แบบโรงแรมในยุโรปตะวันตก การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ที่ให้ทั้งความดิบแต่แฝงความเรียบง่ายเอาไว้จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี

" />

5 ขั้นตอนแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ แบบไม่ต้องลงทุนเยอะ

5 ขั้นตอนแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ แบบไม่ต้องลงทุนเยอะ

5 ขั้นตอนแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ แบบไม่ต้องลงทุนเยอะ


 

เสน่ห์ของการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักก็คือบรรยากาศของความเท่ที่อบอวลไปด้วยความดิบของตัววัสดุที่ใช้ในการตกแต่งอย่างอิฐ ไม้ ปูนเปือย สำหรับใครที่อยากมีห้องนั่งเล่นเท่ๆที่เหมือนได้นั่งอยู่ในบาร์ใต้ดินที่ลอนดอน หรืออยากแต่งห้องอาหารที่เหมือนได้กำลังนั่งดื่มในบาร์ของประเทศยุโรป หรืออยากเปลี่ยนสไตล์ห้องนอนให้ดูเป็นสไตล์ Loft แบบโรงแรมในยุโรปตะวันตก การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ที่ให้ทั้งความดิบแต่แฝงความเรียบง่ายเอาไว้จะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี

บทความนี้จะมาแนะนำเทคนิค 5 ข้อที่คุณสามารถนำไปใช้ในการตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ได้แบบที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะๆอย่างที่รู้กันว่าการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์นั้นไม่เคยล้าสมัย ถ้าใครที่ชอบดูแบบบ้านจะสังเกตว่าการแต่งบ้านแนวนี้เป็นสไตล์ที่ไม่เคยเอ้าท์ไปเลย และมันได้รับความนิยมมากขึ้นอีกด้วย หลายคนอาจจะคิดว่าห้องสไตล์นี้แต่งยากและแพง แต่ไม่เลย ไปดูเคล็ดลับง่ายๆทั้ง 5 ข้อมาบอกกัน

1. เริ่มต้นจากโทนสีที่ใช่ก่อน

หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์ต้องเริ่มต้นจากการเลือกวัสดุ แต่อันที่จริงแล้วการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ควรเริ่มต้นจากโทนสีที่ต้องการเสียก่อน จึงค่อยเลือกหาวัสดุที่มีโทนสีตรงกับที่เราดีไซน์เอาไว้มาตกแต่งในภายหลัง สำหรับการตกแต่งสไตล์ Loft ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่สี ดำ เทา ขาว ครีม และสีน้ำตาลของไม้ เป็นสีหลักๆเลยก็ว่าได้ เมื่อเลือกโทนสีที่ชอบได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปจึงค่อยเลือกหาวัสดุที่มีโทนสีตรงกับที่เราต้องการ  ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องลายไม้ กระเบื้องลายอิฐ หรือปูนเปือย นอกจากวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งแล้ว การเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องให้คุมโทนสีเหล่านี้ไว้ด้วยเช่นกัน เฟอร์นิเจอร์ที่จะเข้ามาอยู่ในห้องจะต้องตรงกับดีไซน์โดยรวมของห้องด้วย ถ้าเน้นการใช้สีเข้มในการตกแต่งโครงสร้างบ้าน กำแพง ผนัง แล้วก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนลงเพื่อให้ห้องไม่ทึบเกินไป อย่างผนังดิบๆเราสร้างเองได้ อาจจะใช้เป็นวอลเปเปอร์ที่ให้สีสันเหมือนจริงแทนการฉาบปูนใหม่ หรือถ้ามีงบประมาณสูงขึ้นมาหน่อยก็อาจจะเลือกใช้อิฐจริงแทนก็ได้

2. งานเหล็กต้องมา งานไม้ต้องมี

เมื่อได้โทนสีที่ต้องการแล้ว คราวนี้ก็มาถึงวัสดุที่จะเลือกใช้กันบ้าง เหล็กและไม้เป็น 2 วัสดุที่ช่วยดึงความลอฟท์หนักๆออกมาได้มาก วัสดุหลักของการแต่งบ้านสไตล์นี้นอกจากเหล็กและไม้แล้วยังมี อิฐ ปูน และสีโทนเข้มๆ ที่สามารถเลือกมาประกอบการตกแต่งได้ด้วย นอกจากวัสดุที่ใช้แล้ว ลำดับถัดมาก็คือ เฟอร์นิเจอร์ ที่หลายๆคนน่าจะนึกภาพออกเร็วๆก็คงจะหนีไม่พ้น โซฟาหนังสีน้ำตาลแก่ๆ หรือถ้าเป็นหนังที่ฟอกให้ดูเก่าๆแบบคลาสสิคก็สวยมากๆเช่นกัน   นอกจากนั้นงานไม้ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้องสไตล์ Loft ขาดไม่ได้เลย เราแนะนำเฟอร์นิเจอร์ไม้เทียมที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับไม้จริง ที่สำคัญทำความสะอาดง่ายและไม่ต้องดูแลรักษาให้ยุ่งยาก อย่างเช่น โต๊ะไม้ ตู้โชว์ไม้ ที่มีความผสมผสานระหว่างงานไม้และงานเหล็กได้อย่างลงตัว

RUGGED+HARSH/ 4 bedroom set ชุดห้องนอน รุ่นรักเก็ต+ฮาร์ช/ 4

 

3. เฟอร์นิเจอร์พระเอกของห้องนอน

ถ้าเป็นห้องนอน แน่นอนว่าคงไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดที่จะโดดเด่นไปกว่าเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าอีกแล้ว ทั้งสองชิ้นนี้คือพระเอกของห้องนอน และถ้าอยากจะแต่งห้องนอนให้ออกมาดูมีความเท่ในแบบลอฟท์ก็ควรจะให้ความสำคัญกับทั้งคู่ด้วย ควรเลือกเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าที่ใช้วัสดุที่สื่อถึงความเป็น Loft เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นไม้หรือหนังก็ตาม   หรือถ้ามีงบประมาณเหลือก็อาจจะลองเพิ่มโซฟาเข้าไปในห้องนอนด้วยก็ได้ ให้เน้นเลือกโซฟาหนังสีเข้มๆอย่างภาพตัวอย่างนี้ที่เป็นโซฟาบาเซลโลมีการบุเพิ่มลูกเล่นเพิ่มเข้าไปด้วย ทำให้ดีเทลมา ดูมีความเท่เหมือนกำลังเดินอยู่ในตลาดนัดขายงานศิลปะเลยทีเดียว ส่วนเตียงนอนนั้น ก็เลือกที่นอนที่วัสดุมีลายไม้ หรือขาตั้งเป็นเหล็ก แบบเตียงนอน 5 ฟุต รุ่นรักเก็ต ที่ขาเตียงดีไซน์มาแบบเท่ และทันสัมย เท่านี้ก็เพิ่มความลงตัวในแบบ loft ได้แล้ว

BASELLO 2 Seater sofa โซฟา 2 ที่นั่ง รุ่นบาเซลโล

RUGGED 5 ft. bed เตียง 5 ฟุต รุ่นฮาร์ช

 

4. โคมไฟ เพิ่มแสงในมุมพิเศษ

การเลือกใช้โคมไฟกับการแต่งห้องในสไตล์ลอฟท์นี้ไม่ได้ยากเหมือนที่หลายๆคนคิด มีดีไซเนอร์หลายๆคนที่เลือกโคมไฟแบบโมเดิร์นมาแต่งห้องในสไตล์ลอฟท์ได้เช่นเดียวกัน เน้นตัวที่มีการออกแบบแนวโปร่งๆ หรือ มินิมอล เล็กน้อยจะเหมาะมาก ข้อควรระวังหนึ่งอย่างสำหรับการเลือกโคมไฟในห้องสไตล์ลอฟท์คือ “ความมืด” เพราะปกติการแต่งห้องสไตล์นี้มักจะเลือกใช้ของตกแต่งสีเข้มๆ ผนนังสีเข้มๆ ทำให้ห้องมักจะมืด ดังนั้นควรมีการเลือกโคมไฟที่ให้แสงสว่างได้มากรวมถึงการเพิ่ม “โคมไฟ” ไว้ตามมุมต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ห้องมืดจนเกินไปและยังเป็นการสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่มากขึ้นด้วย

5. เฟอร์นิเจอร์ที่ดีต้องมีฟังก์ชั่น

มาถึงข้อสุดท้ายและเป็นข้อที่หลายๆคนมักจะหลงลืมไปนั่นก็คือการคำนึงถึงการใช้งานจริงด้วย หลายๆครั้งที่สามารถแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์ได้อย่างสวยงาม ดูเท่อย่างที่ตั้งใจ แต่เมื่อต้องเข้าไปอยู่จริงๆแล้วรู้สึกไม่ถนัด หรือใช้ชีวิตไม่สะดวก ดังนั้นการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์ (จริงๆแล้วก็ทุกสไตล์) ไม่ใช่แค่ดีไซน์กับเลือกวัสดุที่ดูสวยงาม ดูเท่ เท่านั้นแต่ยังต้องดีไซน์พื้นที่และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่อำนวยต่อการใช้งานจริงด้วย   ฟังก์ชั่นต่างๆของเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของการจัดเก็บที่ห้องสไตล์ Loft นั้นต้องดูโปร่ง โล่งอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นจึง “ห้ามรก” โดยเด็ดขาด การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดีไซน์โปร่งแต่จุมาก จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ต้องใส่ใจเลยทีเดียว อย่างเตียงนอนรุ่นฮาร์ช ที่ออกแบบเพิ่มฟังชั่นก์การจัดเก็บที่หัวเตียง สามารถเก็บหนังสือเล่มโปรดหรือแท็บเล็ตได้ หรือโต๊ะคอนโซลกระจก รุ่นกรุ๊ฟ ที่มีถาดวางของมาพร้อมกับตัวตู้ สามารถเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนการวางได้ ทำให้เพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากยิ่งขึ้น

ดแต่งห้องนั่งเล่น HARSH ทันสมัยและโดดเด่นกับการผสมผสานความเรียบ เท่ ได้อย่างลงตัว

 

เห็นไหมว่าการแต่งห้องสไตล์ Loft ไม่ใช่เรื่องยากเลยและจะง่ายยิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณได้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดที่ผ่านการออกแบบดีไซน์มาเพื่อห้องสไตล์ Loft โดยเฉพาะอยู่แล้ว อย่างเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ WINNER รุ่น GRUFF และ HARSH SERIES ที่ช่วยให้คุณได้ประหยัดเวลาในการไปเดินซื้อได้มาก แถมยังมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ และราคาที่เอื้อมถึงอย่างแน่นอน

สัมผัสเฟอร์นิเจอร์รุ่น GRUFF และ HARSH SERIES จากแบรนด์ WINNER Furniture ได้แล้ววันนี้ที่ Index Living Mall ทุกสาขา มาดูกันว่าบทความถัดไปแอดมินจะมาแชร์เรื่องอะไรกันบ้าง แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไป






COPYRIGHT 2022. INDEX LIVING MALL. ALL RIGHTS RESERVED.