ตู้ใส่เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เป็นหนึ่งในความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่จะเริ่มออกแบบอย่างไรถึงจะได้ตู้ใส่เสื้อผ้าที่โดนใจ เรามีเคล็ดลับมาฝากกัน

" />

เคล็ดลับการออกแบบตู้ใส่เสื้อผ้า Walk-in Closet ให้ถูกใจสาวช่างเลือก

เคล็ดลับการออกแบบตู้ใส่เสื้อผ้า Walk-in Closet ให้ถูกใจสาวช่างเลือก

วิธีออกแบบตู้ใส่เสื้อผ้า Walk-in Closet ให้ถูกใจ


Walk-in Closet หนึ่งในตู้ใส่เสื้อผ้าในฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะสวยงามตระการตาแล้ว ยังช่วยจัดเก็บเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และช่วยให้เรา Mix&Match เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับได้อย่างง่ายดาย แต่การออกแบบ Walk-in Closet ไม่ใช่แค่เพียงมีตู้เสื้อผ้าไม้หรือตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนมาวางต่อ ๆ กัน แต่คือการออกแบบทุกพื้นที่ให้ลงตัว และเหมาะสมกับตัวเราและคนในครอบครัวมากที่สุดด้วย Index Living Mall ขอบอกต่อเคล็ดลับในการออกแบบหรือเลือก Walk-in Closet มาฝากกัน

วิธีออกแบบตู้ใส่เสื้อผ้า Walk-in Closet ให้ถูกใจ - Index Living Mall

สำรวจเสื้อผ้าและความต้องการ


อันดับแรกเราจะต้องสำรวจเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าของเราก่อนว่ามีมากหรือมีน้อยเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าแบบไหน มีความยาวและความกว้างของเสื้อผ้ามากที่สุดที่ประมาณเท่าไร เพื่อเราจะได้กำหนดสัดส่วนของพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง

ในขั้นตอนนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบตู้ใส่เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet เลยก็ว่าได้ เพราะการทำตู้ใส่เสื้อผ้าแบบ Build-in Closet หัวใจสำคัญอยู่ที่การออกแบบให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความชอบ รวมถึงการใช้งานของเจ้าของ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณชอบใส่เดรสกระโปรง ก็สามารถขยายพื้นที่ในการจัดเก็บชุดประเภทนี้ให้กว้างขึ้นอีกหน่อย หรือหากคุณชอบสะสมกระเป๋าอาจเพิ่มพื้นที่สำหรับการจัดวางกระเป๋าขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้วางเครื่องประดับ หมวก หรือผ้าพันคอต่าง ๆ ได้อีก แต่ทั้งหมดนี้จะต้องขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้ หากว่าเราใช้ตู้ใส่เสื้อผ้าหรือพื้นที่ร่วมกับผู้อื่น ควรจะมีการกำหนดสัดส่วนให้เหมาะสม เหตุเพราะแต่ละคนอาจจะต้องการพื้นที่ไม่เท่ากัน คุณผู้หญิงอาจจะต้องการสัดส่วนพื้นที่เก็บของที่มากกว่าคุณผู้ชายสักเล็กน้อย ซึ่งในกรณีนี้ขอแนะนำให้แบ่งตามการใช้งานจริงมากกว่าแบ่งเป็นพื้นที่จำนวนเท่า ๆ กัน


กำหนดความลึกและความสูงที่เหมาะสม


หยิบง่าย เลือกสะดวก เป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่ต้องคิดถึงเสมอในยามออกแบบ Walk-in Closet เพราะเราจะต้องใช้งานในทุก ๆ วัน ลองนึกถึงวันที่เร่งรีบแล้วเราต้องเขย่งหรือปีนบันไดขึ้นไปหยิบของคงจะไม่ดีแน่ ทางที่ดีให้ยึดแนวทางดังต่อไปนี้เอาไว้ จะได้ปลอดภัยและสะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด


  • แบ่งสัดส่วนของพื้นที่แขวนเสื้อผ้าให้เหมาะสม โดยควรจะจัดหมวดหมู่ออกเป็นเสื้อผ้าที่มีความยาวค่อนข้างมาก อย่างเดรสหรือเสื้อโคต และเสื้อผ้าที่มีความยาวระดับกลาง ๆ อย่างเสื้อ กางเกง กระโปรง เพื่อกำหนดสัดส่วนความสูงของพื้นที่ที่แขวนเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม
  • ความลึกของตู้ ควรอยู่ที่ประมาณ 60-70 ซม. ในระยะประมาณนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว เสื้อโคตหนา ๆ ก็สามารถเก็บวางได้เป็นระเบียบ
  • ราวแขวนเสื้อผ้าควรมีความสูงที่เหมาะสม ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเอื้อมมือไปหยิบได้โดยที่ไม่ลำบากอะไร ซึ่งเราสามารถกำหนดระยะได้จากความสูงของผู้ใช้งานเป็นหลัก อย่างไรก็ตามราวแขวนเดรส เสื้อโคต ชุดราตรี ควรมีระยะความสูงอยู่ที่ประมาณ 160-180 ซม. เสื้อ กระโปรง และกางเกงที่แขวนแบบพับครึ่งมีความสูงของชั้นอยู่ที่ประมาณ 130 ซม. เพื่อความเป็นระเบียบและไม่ให้ชายเสื้อ กระโปรง หรือกางเกงต้องเรี่ยกับพื้น ซึ่งอาจทำให้เสื้อผ้ายับและดูไม่เป็นระเบียบ และเราอาจเพิ่มความสะดวกในการ Mix&Match เสื้อผ้าในแต่ละวันด้วยการทำราวสองชั้นเพื่อเก็บเสื้อและกระโปรงไว้ใกล้กัน ซึ่งนอกจากจะหยิบใช้สะดวกแล้วยังช่วยประหยัดเนื้อที่ด้วย
  • ลิ้นชักเก็บชุดชั้นในควรอยู่ที่ระยะ 40 ซม. เพื่อให้สามารถก้มหยิบได้อย่างสะดวกสบาย และแบ่งช่องตามความเหมาะสม
  • หมอน ผ้าห่ม กระเป๋าเดินทาง และสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้งานที่มีน้ำหนักไม่มาก สามารถเก็บไว้ด้านบนของตู้ใส่เสื้อผ้าได้ แต่ไม่ควรสูงเกิน 180 ซม. เพื่อความปลอดภัย
  • รองเท้า ควรจัดวางเป็นชั้นที่มีช่องว่างตามความเหมาะสม โดยทั่วไปจะกำหนดไว้ที่ประมาณ 30 ซม. หากว่าเราเป็นคนที่ใส่รองเท้าสั้น แค่หุ้มข้อ หรือรองเท้าคัตชู และอยากจะประหยัดเนื้อที่ เราอาจจะกำหนดความสูงของชั้นให้อยู่ที่ประมาณ 15 ซม. และทางที่ดีให้เราเผื่อความสูงของชั้นล่างสุดไว้ที่ประมาณ 45 ซม. สำหรับรองเท้าบูตสูง
  • กระเป๋า สำหรับสาว ๆ ที่มีกระเป๋าที่เข้ากับชุดจำนวนมาก และชอบเปลี่ยนลุคแบบไม่ซ้ำ ควรจะมีตู้ใส่กระเป๋าแยกต่างหาก แนะนำให้เป็นตู้กระจกเพื่อที่จะได้เลือกได้ง่าย และเก็บกระเป๋าได้แบบไม่เสียทรง โดยความสูงของช่องว่างแต่ละชั้นอาจจะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเป๋าที่เราใช้ หรือจะปรับให้เป็นที่แขวนกระเป๋าสำหรับกระเป๋า Tote ผ้าใบใหญ่ก็ประหยัดเนื้อที่ไม่น้อยทีเดียว
  • เครื่องประดับ นาฬิกา เนกไท และของประดับอื่น ๆ หากว่ามีพื้นที่และมีเครื่องประดับจำนวนมาก แนะนำให้ทำเป็นไอส์แลนด์ ด้านบนเป็นกระจก จึงสามารถเลือกเครื่องประดับได้ แม้ว่ายังไม่เลื่อนลิ้นชักออกมา แต่หากว่าใครมีพื้นที่ไม่มากก็อาจจะใส่ไว้ในลิ้นชักที่มีช่องจัดวางเป็นสัดส่วน
  • ที่ว่างตรงกลาง เพื่อใช้ในการแต่งตัวและเลือกเสื้อผ้าควรที่มีความกว้างประมาณ 120 ซม. เป็นอย่างต่ำ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางคร่าว ๆ ในการจัดระเบียบและวางสัดส่วนของตู้ใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับต่าง ๆ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและความต้องการของแต่ละคน

วิธีออกแบบตู้ใส่เสื้อผ้า Walk-in Closet ให้ถูกใจ - Index Living Mall

เฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่ควรมี


นอกจากตู้ใส่เสื้อผ้าแล้ว สิ่งที่เราควรจะมีใน Walk-in Closet ของเราก็คือ กระจกบานใหญ่ ที่สามารถตรวจดูความเรียบร้อย และความเข้ากันของเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับของเรา และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นและการแต่งตัวการที่โซฟา 1 ที่นั่ง หรือสตูลน่ารัก ๆ สักตัว ก็จะช่วยให้บรรยากาศใน Walk-in Closet น่ารัก และยังช่วยให้การแต่งตัวของเราง่ายขึ้นอีกด้วย


อย่าลืมเรื่องแสงสว่าง


สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet แสงสว่างเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก หากเป็นไปได้ควรจะออกแบบให้อยู่ในพื้นที่ที่แสงธรรมชาติสามารถส่องถึง ส่วนแสงไฟที่อยู่ในห้องก็ควรใช้เป็นแสงธรรมชาติจะดีที่สุด


เคล็ดลับการเลือกอุปกรณ์จัดเก็บให้เหมาะสมกับเสื้อผ้า


ไม่เพียงแต่การจัดวางพื้นที่จะช่วยให้ตู้ใส่เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ของเราเป็นระเบียบขึ้น แต่การเลือกแร็กและอุปกรณ์จัดเก็บเสื้อผ้าก็ช่วยให้เสื้อผ้าเป็นระเบียบและสวยงาม

สำหรับเสื้อเชิ้ต และชุดต่าง ๆ จะเหมาะสมกับราวเดี่ยว แต่หากว่าเป็นกางเกงเราสามารถเลือกแร็กสำหรับแขวนกางเกงได้ ก็จะช่วยให้การจัดเก็บง่ายขึ้น

หากว่าใครต้องการเก็บผ้าขนหนู หรือเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักไม่มากอย่างชุดนอนหรือกางเกงขาสั้น ตะกร้าลวดก็สามารถนำมาใช้ได้ และหากว่าใครต้องการเก็บรองเท้าได้มากขึ้นในพื้นที่ที่จำกัดก็อาจจะเลือกอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บโดยเฉพาะนั่นเอง


การเลือกวัสดุและรูปแบบบานประตู


ขั้นตอนสุดท้ายหรืออาจจะเป็นขั้นตอนแรกเพราะหลายคนมีในใจอยู่แล้ว คือการเลือกวัสดุและรูปแบบ

สำหรับวัสดุของตู้ใส่เสื้อผ้านั้นไม่จำกัดว่าต้องเป็นตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้กระจก เราสามารถเลือกได้ตามสไตล์การตกแต่งของบ้าน และหากต้องการใส่บานประตูควรจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน เพื่อประหยัดเนื้อที่ หรือหากว่าเป็นห้องอยู่แล้วก็สามารถเปิดเปลือยได้เช่นเดียวกัน



สำหรับใครที่มีไอเดียการออกแบบ Walk-in Closet ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม หรือยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มอย่างไร สามารถปรึกษาอินทีเรียดีไซเนอร์ของ Index Living Mall ได้ หรือหากต้องการซื้อตู้ใส่เสื้อผ้า ทั้งตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน และตู้เสื้อผ้าแบบอื่น ๆ ก็สามารถเลือกได้ง่าย ๆ ที่นี่

เรามีบริการประกอบและส่งสินค้าให้คุณถึงบ้าน พร้อมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร: 1379 ได้ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 ถึง 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดเทศกาลปีใหม่ วันสงกรานต์ และวันแรงงาน




COPYRIGHT 2022. INDEX LIVING MALL. ALL RIGHTS RESERVED.