ชวนรู้จัก 4 เคล็ดลับการเลือกที่เก็บรองเท้าให้มีสไตล์ แต่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

ชวนรู้จัก 4 เคล็ดลับการเลือกที่เก็บรองเท้าให้มีสไตล์ แต่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

เพราะรองเท้าที่ใช่และตรงกับไลฟ์สไตล์ไม่ได้มีเพียงคู่เดียว 

ดังนั้น ไม่เพียงแต่จะหาวิธีทำความสะอาดอย่างถูกต้องเพื่อรักษารองเท้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ หรือเลือกทำสปารองเท้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุของหนังเท่านั้น แต่รู้หรือไม่? การเลือกที่วางรองเท้าที่สามารถเก็บรักษารองเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยรักษารองเท้าให้อยู่กับเราได้นาน ๆ แล้ว ที่เก็บรองเท้าคุณภาพสูงดีไซน์ตรงใจยังสามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้าน อีกทั้งยังช่วยรักษาสุขภาพของคนในบ้านได้อีกด้วย

หากใครที่กำลังมองหาที่เก็บรองเท้า แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งาน วันนี้ Index Living Mall อยากบอกต่อถึง 4 เคล็ดลับการเลือกที่วางรองเท้าที่น้อยคนนักจะรู้จัก แถมยังตอบโจทย์ความต้องการของคนในบ้าน และยังช่วยรักษาคุณภาพของรองเท้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่จะมีวิธีการเลือกอย่างไรนั้น เตรียมตัวใส่รองเท้าแล้วไปรู้พร้อมกันเลย

4 เคล็ดลับการเลือกที่เก็บรองเท้าที่ “น้อยคนจะรู้” - Index Living Mall

เคล็ดลับที่ 1 : หัวใจอยู่ที่การเลือกวัสดุ

หลายคนอาจมองว่าการเลือกชั้นวางรองเท้าควรเน้นไปที่ดีไซน์และการออกแบบที่เข้ากับตัวบ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถึงดีไซน์การออกแบบจะสำคัญมากเพียงใด แต่ ‘วัสดุ’ ที่ใช้ทำที่วางรองเท้านั้นมีความสำคัญยิ่งกว่า เพราะลองคิดดูง่าย ๆ หากเราเลือกซื้อชั้นวางรองเท้ามาใช้งาน แต่เกิดการชำรุดในเวลาไม่นาน ไม่เพียงแต่จะเสียเงินโดยใช่เหตุแล้ว ไม่แน่ว่าเชื้อโรคจากรองเท้าอาจเล็ดลอดออกมาทำลายสุขภาพของคนในบ้านด้วยก็เป็นได้ 

โดยส่วนใหญ่แล้ว ที่เก็บรองเท้านั้นสามารถทำมาจากวัสดุหลากหลายประเภทที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น 

  • วัสดุโลหะ เช่น เหล็ก และอะลูมิเนียม ให้ความทนทานสูง สามารถใช้เป็นที่เก็บรองเท้าได้ทั้งภายนอก และภายใน แต่หากใช้ไปนาน ๆ เหล็กก็อาจเสื่อมสภาพและเป็นสนิม และอาจมาโดนกับรองเท้าจนเลอะ หรือหากเลือกใช้วัสดุทนสนิมอย่างสแตนเลส ที่วางรองเท้าก็อาจมีราคาที่สูง
  • วัสดุพลาสติก ให้น้ำหนักที่เบา เคลื่อนย้าย และมีราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่หากใช้เป็นที่เก็บรองเท้าด้านนอกก็อาจโดนแดด ฝน และลมกัดกร่อนได้ในเวลาไม่นาน
  • วัสดุไม้ ชั้นวางรองเท้าไม้ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่หลายคนเลือกใช้เนื่องจากมีความแข็งแรงและมีดีไซน์ที่สวยงาม แต่อย่างไรก็ดี ไม้ก็เป็นวัสดุที่ดูแลรักษายาก เสี่ยงต่อการเกิดปลวก และมีราคาสูง

 

จะเห็นได้ว่า ในแต่ละวัสดุนั้นมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป และเหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งหากใครเน้นเก็บรองเท้าในที่ร่ม หรือภายในบ้าน การเลือกชั้นวางรองเท้าไม้ หรือชั้นวางรองเท้าพลาสติกก็สามารถให้ความทนทานไม่แพ้วัสดุอื่น ๆ เช่นกัน แต่หากบ้านไหนเน้นการเก็บรองเท้าไว้นอกบ้านเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าบ้าน การเลือกที่เก็บรองเท้าจากวัสดุเหล็กก็อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า รวมถึงยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกมากกว่าด้วย 

 

เคล็ดลับที่ 2 : เลือกให้ดี! จะใช้ที่เก็บรองเท้าหน้าบานแบบ “เปิด” หรือ “ปิด”

ไม่เพียงแต่จะเลือกวัสดุที่วางรองเท้าเท่านั้น แต่การเลือกประเภทของหน้าบานก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยหน้าบ้านของชั้นวางรองเท้านั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

 

  • หน้าบานเปิด หรือไม่มีหน้าบาน

การเลือกที่วางรองเท้าที่ไม่มีหน้าบาน หรือเน้นการเปิดหน้าบาน จะสามารถช่วยให้รองเท้าได้ระบายอากาศได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังลดปัญหากลิ่นอับของรองเท้าได้ นอกจากนี้ การไม่มีหน้าบานยังช่วยเพิ่มเอกลักษณ์การแต่งบ้านสำหรับ Sneaker Lovers ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี ชั้นวางรองเท้าประเภทนี้ก็เสี่ยงต่อการมีสัตว์หรือแมลงเข้าไปมุดตัวอยู่ในรองเท้า อีกทั้งยังทำให้เกิดฝุ่นละอองได้ง่าย และที่สำคัญ การไม่มีหน้าบานปิดที่เก็บรองเท้านั้นยังทำให้รองเท้าเสี่ยงต่อการโดนฝนและแดดอีกด้วย

 

  • หน้าบานปิด

ถึงแม้ชั้นวางรองเท้าหน้าบานปิดอาจแก้ปัญหากลิ่นอับรอบ ๆ ตู้รองเท้าได้ แต่ชั้นวางรองเท้าประเภทนี้ก็ทำให้เกิดกลิ่นอับ ความชื้นสะสม และทำให้เกิดปัญหาราขึ้นรองเท้าได้เช่นกัน แต่ หากใครดูแลรักษารองเท้าเป็นประจำ การมีที่เก็บรองเท้าหน้าบานปิดก็สามารถช่วยป้องกันปัญหาแมลงและสัตว์ รวมถึงปัญหารองเท้าเสียหายจากแดด ฝน ลม และฝุ่นละอองได้ นอกจากนี้ การมีหน้าบานปิดยังช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบในบ้าน ทำให้มองเห็นชั้น และพื้นที่รอบ ๆ ได้อย่างสบายตา

เลือกให้ดี! จะใช้ที่เก็บรองเท้าหน้าบานเปิดหรือปิด - Index Living Mall

เคล็ดลับที่ 3 : เลือกจำนวนชั้นให้เหมาะสม

หลายคนอาจมองว่า การเลือกซื้อที่วางรองเท้าควรเน้นชั้นที่สามารถเก็บรองเท้าได้หลายคู่เข้าไว้ เพราะจะได้ไม่ได้เสียเงินซื้อหลายรอบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การซื้อชั้นวางรองเท้าที่มีจำนวนชั้นที่มากเกินไปย่อมหมายถึงเวลาในการทำความสะอาดที่มากขึ้น แถมหากยิ่งจำนวนชั้นมีสูงมากเท่าไหร่ การจัดเก็บก็จะยิ่งเป็นอันตราย และเสี่ยงต่อการโค่นล้มที่ทำให้รองเท้าเสียหาย และเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน

ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกจำนวนชั้นของที่เก็บรองเท้า เราอยากให้เหล่า Sneaker Lovers ทุกคนลองพิจารณาถึงจำนวนรองเท้าที่มี รวมถึงศึกษาถึงวิธีจัดเก็บรองเท้าแต่ละคู่ จากนั้นให้เลือกพื้นที่จัดเก็บรองเท้าที่ปลอดภัย ไม่ส่งกลิ่นรบกวน หรือมีเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอันตรายต่อคนในบ้าน

 

เคล็ดลับที่ 4 : ดูความลึกของชั้นวางรองเท้าให้ดี

สำหรับใครที่ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน แน่นอนว่าขนาดรองเท้าที่พอดีย่อมมีไซซ์ที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้ การเลือกซื้อชั้นวางรองเท้ายังต้องพิจารณาถึงขนาดความลึกของชั้นเพิ่มด้วย 

ตามขนาดมาตรฐานแล้ว ที่วางรองเท้าที่สามารถจัดเก็บรองเท้าได้ทุกไซซ์นั้นควรจะมีความลึกมากกว่า 35 เซนติเมตรขึ้นไป แต่หากใครเป็นคนรักรองเท้า และต้องเก็บรองเท้าไว้ในกล่องเพิ่มอีกชั้น ความลึกของที่เก็บรองเท้าก็ควรเพิ่มไปที่ 40 - 45 เซนติเมตร

 

ง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ทุกคนก็สามารถเลือกที่เก็บรองเท้าที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังช่วยให้เก็บรองเท้าได้อย่างปลอดภัย และไม่ทำร้ายสุขภาพของคนในบ้านอีกด้วย ซึ่งหากใครกำลังตามหาที่วางรองเท้าดีไซน์สวยที่เข้ากับทุกสไตล์ของบ้าน สามารถเข้ามาเลือกชมชั้นวางรองเท้าไม้หลากหลายดีไซน์ รวมถึงชั้นวางรองเท้าจากทุกวัสดุที่ตามหาได้แล้วที่ Index Living Mall ทุกสาขา หรือคลิกที่นี่




COPYRIGHT 2022. INDEX LIVING MALL. ALL RIGHTS RESERVED.